กีฬา, ข่าวทั่วไป, ฟุตบอล

แมนเชสเตอร์ซิตี้โกงตายแซงสิงห์ผงาดท้ายเกม 3-2 ฟันแชมป์อีกสมัย | Premier League

แมนเชสเตอร์ซิตี้

แมนเชสเตอร์ซิตี้ ผงาดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2021 – 2022 ไปครองอย่างสุดดราม่า  หลังจากโกงตายรัวสามดอกรวดแซงเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ไปได้ราวปาฏิหาริย์ 3-2 ในเกมนัดปิดซีซั่น เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2022 ทำให้คว้าแชมป์ลีกผู้ดีเพิ่มไปได้อีกหนึ่งสมัย  รวมทั้งยังเป็นการป้องกันแชมป์ได้อีกด้วย แม้ว่าลิเวอร์พูลจะเปิดแอนฟิลด์เอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตันไปได้ตามเป้าหมาย 3-1 แต่หงส์แดงก็โดนเรือใบสีฟ้าคว้าแชมป์ไปด้วยการที่เหนือกว่าเพียงแต้มเดียวเท่านั้นเอง

เรือใบสีฟ้า เดินหน้าบุกเข้าใส่ตั้งแต่สิ้นเสียงนกหวีดยาวจากผู้ตัดสินส่งสัญญาณให้เริ่มเกม  และก็มีลุ้นขึ้นนำในนาทีที่ 24 จากจังหวะสวนกลับเร็ว  แล้วเควิน เดอ บรอยน์ลากบนจากแดนตนเองไปถึงหน้าเขตโทษของสิงห์ผงาด ก่อนที่จะจ่ายให้กาเบรียล เชซุสรับบอลไปพร้อมไหลต่อให้ฟิล โฟเด้นสอดขึ้นกดจากทางด้านซ้าย แล้วบอลพุ่งหลุดออกเสาไกลไปแบบได้เสียวเลยทีเดียว

หลังจากนั้นนายทวารของแอสตัน วิลล่าอย่างโรบิน โอลเซ่นก็มีงานเข้าแทบตลอด แต่จนแล้วจนรอดกลับเป็นฝ่ายสิงห์ผงาดที่บุกไปเป็นฝ่ายขึ้นนำอย่างพลิกความคาดหมายในนาทีที่ 37 จากจังหวะที่ลูก้า ดีญกระชากบอลเติมเกมรุกขึ้นไปทางด้านซ้าย  ก่อนที่จะเปิดเข้าไปที่เสาไกลให้แมธทิว แคชสอดขึ้นมาโขกเน้น ๆ เข้าไปตุงตาข่าย 1-0

เปิดฉากครึ่งหลังมาเรือใบสีฟ้าไม่พูดพล่ามทำเพลงประเคนเกมรุกเข้าใส่ดุจพายุ และได้ลุ้นไปสองชุดติด ๆ ในช่วง 5 นาทีแรกของครึ่งหลังทั้งจากการวอลเลย์ของเดอ บรอยน์  และการเข้าชาร์จแบบโล่ง ๆ ของเชซุส แต่ก็ยังไม่เป็นประตูอยู่ดี

สิงห์ผงาดมีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มในนาทีที่ 55 จากการเปิดบอลยาวของมือกาวอย่างโอลเซ่นอีกครั้ง  แล้วคราวนี้ทำให้วัตกิ้นส์ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าเอแดร์ซอน โมราเอส  แม้จะสามารถซัดผ่านตัวนายด่านทีมชาติบราซิลไปได้แล้ว  แต่สุดท้ายบอลหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย  ทำให้ลูกทีมของสตีเว่น เจอร์ราร์ดพลาดโอกาสทองที่จะทิ้งห่างเรือใบสีฟ้า

แม้ว่าแมนฯซิตี้พยายามจะโหมเกมรุกเข้าใส่อย่างหนักเพียงใด แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะกำแพงเมืองจีนของแอสตัน วิลล่าฝ่าเข้าไปล่าตาข่ายได้สำเร็จ  และกลับเสร็จสิงห์ผงาดที่หนีห่างออกไปเป็น 2-0 แบบสุดเซอร์ไพรส์ในนาทีที่ 70 โดยโอลเซ่นเปิดบอลยาวจากหน้าปากประตูของตนเองไปที่หน้าเขตโทษเรือใบสีฟ้า  ก่อนที่โอลลี่ วัตกิ้นส์จะโหม่งตั้งให้คูตินโญ่จากทางด้านซ้าย แล้วอดีตดาวเตะลิเวอร์พูลก็ลากไปหลอกตะบันยัดเข้าเสาแรก 2-0

อย่างไรก็ดี แมนเชสเตอร์ซิตี้ ก็มาได้ประตูตีไข่แตกจุดประกายความหวังกลับคืนสู่เกมอีกครั้งในนาทีที่ 76 โดยราฮีม สเตอร์ลิงครอสบอลจากทางด้านขวาไปที่เสาไกลให้อิลคาย กุนโดกันโขกเข้าไปตุงตาข่ายไล่มาเป็น 1-2 นับเป็นการประสานงานกันอย่างเยี่ยมยอดของสองตัวสำรองที่ถูกส่งลงไปในครึ่งหลัง

หลังจากนั้นอีกเพียงแค่ 2 นาทีเรือใบสีฟ้าก็มาตีเสมอได้สำเร็จ 2-2 เมื่ออีกหนึ่งตัวสำรองอย่างโอเล็กซานเดอร์ ซิเชนโก้ไหลบอลจากหน้าเขตโทษทางด้านซ้ายไปให้โรดริโก้ตั้งป้อมกดเน้น ๆ บอลเสียบเข้าเสาแรกไปอย่างหยดย้อย

 

แมนเชสเตอร์ซิตี้

 

กุนโดกันรับบทซูเปอร์ซับสับประตูชัยให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ในนาทีที่ 82

โดย เดอ บรอยน์ จ่ายถวายพานทองฝังเพชรไปให้มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันชาร์จเผาขนเข้าไปไม่เหลือซากแซงนำพร้อมเป็นประตูชัย 3-2 ประตูชัยของกุนโดกันนั้นมันแทบประเมินค่าไม่ได้เลยทีเดียว เนื่องจากเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ไขให้เรือใบสีฟ้าสามารถป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกเอาไว้ได้สำเร็จ  หลังจากมีเพิ่มเป็น 93 คะแนนจาก 38 นัด โดยเฉือนชนะลิเวอร์พูล ซึ่งเปิดบ้านรัวสองเม็ดท้ายเกมแซงตบวูล์ฟแฮมป์ตันไปตามเป้า 3-1 ไปเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้นเอง  ซึ่งหากไม่ได้ประตูจากฮีโร่สัญชาติเยอรมันแล้วล่ะก็คงต้องอกหักพลาดแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษในซีซั่นนี้ไปอย่างสุดแสนชอกช้ำระกำใจอย่างแน่นอน

 

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม:

แมนฯซิตี้ (4-3-3): แอร์เดซอน โมราเอส,  แฟร์นันดินโญ่ (โอเล็กซานเดอร์ ซิเชนโก้ นาทีที่ 46),  จอห์น สโตนส์,  อายเมริก ลาปอร์กต์,  ชูเอา กานเซโล่,  แบร์นาร์โด้ ซิลวา (อิลคาย กุนโดกัน นาทีที่ 68),  โรดรี้,  เควิน เดอ บรอยน์,  ริยาด มาห์เรซ (ราฮีม สเตอร์ลิง นาทีที่ 56),  กาเบรียล เชซุส,  ฟิล โฟเด้น

ผู้จัดการทีม: เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

แอสตัน วิลล่า (4-2-3-1): โรบิน โอลเซ่น,  แมธทิว แคช,  คาลั่ม แชมเบอร์ส,  ไทโรน มิงส์,  ลูก้า ดีญ,  จอห์น แม็คกินน์,  ดาวิด ลุยซ์,  เจค็อบ แรมซี่ย์ (แดนนี่ อิงส์ นาทีที่ 83),  ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (มาร์เวลัส นากัมบา นาทีที่ 72),  เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย (แอชลี่ย์ ยัง นาทีที่ 90),  โอลลี่ วัตกิ้นส์

ผู้จัดการทีม: สตีเว่น เจอร์ราร์ด

ผู้ตัดสิน: ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

rw24 banner

Related Posts