แมนฯซิตี้ไปตามนัดเข้าตัดเชือกราชันชุดขาวศึกแชมเปี้ยนส์ลีก
แมนฯซิตี้ จ่าฝูง พรีเมียร์ลีกอังกฤษ บุกไปยันเสมอแอตเลติโก มาดริด แชมป์ลา ลีกาสเปนเมื่อซีซั่นที่แล้ว สุดเดือด 0-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศนัดสอง เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2022 แม้จะไม่มีสกอร์เกิดขึ้นในเกมนี้ แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็มีดราม่าจากการปะทะกันของแข้งทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้ายเรือใบสีฟ้าก็ยังตบเท้าเข้ารอบรองชนะเลิศไปด้วยสกอร์รวม 1-0 ซึ่งตุนเอาไว้จากการกำชัยเหนือทีมตราหมีในนัดแรกที่เอติฮัด สเตเดี้ยม
แม้ว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่าจะมีเกมสำคัญรออยู่อย่างศึกเอฟเอ คัพที่ต้องปะทะกับคู่ปรับตัวฉกาจอย่างลิเวอร์พูล ในรอบรองชนะเลิศที่เวมบลี่ย์ ในวันที่ 16 เมษายน 2022 แต่ก็ยังต้องเน้นนัดนี้เป็นพิเศษเพราะว่าเกมแรกตุนสกอร์เอาไว้ในบ้านเพียงแค่เม็ดเดียวเท่านั้นเอง ประกอบกับแอต.มาดริดเป็นทีมที่มีฟอร์มแข็งแกร่งยามได้เล่นในว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ และงานนี้ดีเอโก้ ซิเมโอเน่คงปลุกเร้าแฟนตราหมีให้พร้อมใจกันส่งเสียงกดดันจนแข้งขาสั่นตลอดเกมอย่างแน่นอน
เรือใบสีฟ้าได้เป็นฝ่ายออกหมัดทักทายก่อนในนาทีที่ 9 เมื่อเควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส ดีดบอลไปให้อิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ได้ลองส่องไกลแล้วดูเหมือนว่าบอลจะไปแฉลบแข้งแอต.มาดริด แต่ว่าผู้ตัดสินดันชี้ไปเป็นลูกตั้งเตะจากประตู
แมนฯซิตี้มีโอกาสบุกไปลุ้นขึ้นนำในนาทีที่ 27 จากจังหวะที่ชูเอา กานเซโล่ ฟูลแบ็กจอมบุกทีมชาติโปรตุเกส เติมเกมรุกสอดเข้าไปในเขตโทษทางด้านซ้ายตบบอลสั้นไปให้ฟิล โฟเด้น ดาวเตะดาวโรจน์ทีมชาติอังกฤษ แม้ว่าจะไปติดบล็อกของแอต.มาดริด แต่บอลก็ยังไปเข้าทางเดอ บรอยน์ได้ตั้งป้อมหวดทันที แต่ว่าสุดท้ายแข้งตราหมีก็ยังตามมาบล็อกเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที
ลูกทีมของกวาร์ดิโอล่าน่าได้ประตูขึ้นนำสุด ๆ หลังเกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง โดยที่ริยาด มาห์เรซ สตาร์ทีมชาติแอลจีเรีย ไหลบอลเรียดเลาะริมเส้นทางด้านขวาไปให้ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ เติมเกมรุกขึ้นมาปาดผ่านไปที่หน้าปากประตูเลยไปถึงโฟเด้นอีกฟากของสนาม ก่อนที่เจ้าหนูดาวโรจน์สิงโตคำรามจะจิ้มบอลสั้นเข้ากลางให้กุนโดกันแปบอลดิ่งไปชนเสาแรก ก่อนที่ประตูมือหนึ่งทีมชาติสโลวีเนียอย่างยาน โอบลัคจะแหย่เท้าสกัดบอลเอาไว้ได้ทัน และแม้ว่าเหล่าแข้งเรือใบต่างพากันกรูเข้าไปซ้ำแต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด
เจ้าบ้านได้ออกหมัดบ้างในนาทีที่ 35 โดยที่มาร์กอส ยอเรนเต้จ่ายบอลย้อนออกนอกกรอบเขตโทษไปให้เจฟฟรี่ย์ กงด็องเบียได้ลองตะบันจากระยะราว 20 หลา แต่ว่ากุนโดกันเข้ามาขวางเอาไว้ทำให้บอลขาดน้ำหนักไปจนเอแดร์ซอน โมราเอสรับกินนิ่มมราเอสรับกินนิ่มมราเอสรับกินนิ่ม
แอต.มาดริด มีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 57 เมื่อยอเรนเต้เก็บบอลได้จากการเคลียร์ทิ้ง ก่อนที่จะแตะบอลสั้นให้ชูเอา เฟลิกซ์แตะบอลต่อไปให้อ็องตวน กรีซมันน์ ซุปตาร์ทีมชาติฝรั่งเศส ได้ลองยิงแบบฉีดยาตรงบริเวณวงกลมกรอบเขตโทษ แล้วบอลพุ่งเฉี่ยวเสาด้านซ้ายออกไปแบบได้เสียวเลยทีเดียว
ก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 4 นาทีทีมตราหมีมีลุ้นได้ประตูชัยจากจังหวะที่อังเคล กอร์เรอาวิ่งมาพักอกบอลคืนเข้ากลางเขตโทษ แล้วมาเตอุส คุนญ่าสบโอกาสได้ตะบันเต็มเหนี่ยว แต่ว่าจอห์น สโตนส์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ ยังทิ้งตัวขวางบอลเอาไว้ได้
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 2 นาทีมีเหตุการณ์วุ่นวายไม่น้อย โดยเฟลิปเป้โดนใบเหลืองติด ๆ กันแบบรัว ๆ รวมเป็นสองใบโดนไล่ออกจากสนาม หลังจากตามไปสกัดแรงเข้าใส่โฟเด้น ก่อนที่จะมีดราม่าจากการที่แข้งทั้งสองฝ่ายต่างไม่พอใจกรูกันลงไปในสนาม ทำให้เกมชะงักไปพักใหญ่ ก่อนที่เรือใบสีฟ้าจะตบเท้าเข้ารอบรองชนะเลิศไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 1-0 แต่ก็ต้องไปเจอบททดสอบสุดโหดด้วยการเข้าไปตัดเชือกกับเรอัล มาดริด เจ้าของแชมป์ยุโรป 13 สมัยจากลา ลีกาสเปน เป็นด่านต่อไป
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม:
แอต.มาดริด (3-5-2): ยาน โอบลัค, สเตฟาน ซาวิช, เฟลิปเป้, เรยนิลโด้, มาร์กอส ยอเรนเต้, โกเก้ (โรดิโก้ เด ปอล นาทีที่ 69), เจฟฟรี่ย์ กงด็องเบีย, โตมาส์ เลอมาร์ (หลุยส์ ซัวเรซ นาทีที่ 82), เรนาน โลดี้ (อังเคล กอร์เรอา นาทีที่ 70), อ็องตวน กรีซมันน์ (ยานนิค การ์ราสโก้ นาทีที่ 69), ชูเอา เฟลิกซ์ (มาเตอุส คุนญ่า นาทีที่ 82)
ผู้จัดการทีม: ดีเอโก้ ซิเมโอเน่
แมนฯซิตี้ (4-3-3): เอแดร์ซอน โมราเอส, ไคล์ วอล์คเกอร์ (นาธาน อาเก้ นาทีที่ 74), จอห์น สโตนส์, อายเมริค ลาปอร์กต์, ชูเอา กานเซโล่, เควิน เดอ บรอยน์ (ราฮีม สเตอร์ริ่ง นาทีที่ 65), โรดรี เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา (แฟร์นันดินโญ่ นาทีที่ 79)
ผู้จัดการทีม: เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ผู้ตัดสิน: ดาเนียล ซีเบิร์ต (เยอรมัน)

