ราชันชุดขาวพกดวง พลิกนรกกำชัยทำเปแอสเชสุดช้ำ 3 – 1 

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เจ้าบุญทุ่มในลีกเอิงฝรั่งเศส จำใจต้องกระเด็นตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกไปอีกหนึ่งซีซั่น  แม้ว่าจะบุกไปนำเรอัล มาดริด 1 – 0 พร้อมกุมความได้เปรียบด้วยสกอร์รวม 2 – 0 แต่ครึ่งหลังเหมือนหนังคนละม้วน โดยราชันชุดขาวมาได้ซูเปอร์ฮีโร่อย่างคาริม เบนเซม่า สิงห์เฒ่าทีมชาติฝรั่งเศส กดแฮตทริกในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดสองช่วยให้โคตรทีมแห่งลา ลีกาสเปน เปิดซานติอาโก เบร์นาบิวพลิกแซงชนะเปแอสเชไปได้สุดดราม่า 3 – 1 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2022 พร้อมตบเท้าเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 3 – 2

เก่งหรือจะสู้เฮงเมื่อเทพีแห่งโชคถือหางราชันชุดขาว

แบบนี้มันเข้าตำราที่ว่า “เก่งหรือจะสู้เฮง” อย่างแท้ทรูเลยทีเดียว  เมื่อเรอัล มาดริดพลิกสถานการณ์จากที่ตกเป็นรองในครึ่งแรก แล้วพลิกกลับมาแซงชนะเปแอสเชไปได้ราวปาฏิหารย์ 3 – 1 จากการระเบิดแฮตทริกของคาริม เบนเซม่า ในครึ่งหลังของเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดสอง

เปแอสเชกุมความได้เปรียบเอาไว้ในกำมือตั้งแต่ครึ่งแรก

เปแอสเชส่งลูกเข้าไปตุงตาข่ายได้ก่อนในนาทีที่ 34 เมื่อนูโน่ เมนเดสสอดเก็บบอลทางฝั่งซ้าย  และรอจนสบโอกาสจึงปาดบอลไปให้เอ็มบั๊ปเป้ส่งบอลเข้าไปประตูไปได้เรียบร้อย  แต่น่าเสียดายที่หลักฐานจากวีเออาร์ฟ้องชัดเจนว่าเมนเดสอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ทำให้แฟนเปแอสเชเฮกันเก้อ

แต่อีกเพียงแค่ 5 นาทีหลังจากนั้นแฟนบอลเปแอสเชก็ได้เฮกันลั่นซานติอาโก เบร์นาบิว  คราวนี้เป็นเนย์มาร์ ซุปตาร์ทีมชาติบราซิล ตวัดบอลเร็วขึ้นหน้าไปให้เอ็มบั๊ปเป้ลากบอลหลอกดาวิด อลาบา ดาวเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติออสเตรีย ก่อนที่จะเข้าไปซัดในเขตโทษบอลรอดแขนของติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารมือหนึ่งทีมชาติเบลเยี่ยม เข้าไปทางเสาด้านซ้าย ทำให้เปแอสเชบุกไปนำ 1 – 0 พร้อมกับกุมความได้เปรียบเอาไว้ในกำมือจากสกอร์นัดแรกที่ตุนเอาไว้รวมกันเป็น 2 – 0

ครึ่งหลังผู้กำกับปั้นราชันชุดขาวเป็นพระเอก

นาทีที่ 54 เปแอสเชพลาดโอกาสทองที่จะทิ้งห่างเรอัล มาดริดไปเป็น 2 – 0 เมื่อเนย์มาร์แทงบอลทะลุเข้าไปในเขตโทษให้เอ็มบั๊ปเป้โชว์สเต็ปเทพสับขาหลอกกูร์กตัวจนเสียคน ก่อนที่จะส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างง่ายดาย  แต่เทพีแห่งโชคก็ยังคงถือหางทางฝั่งราชันชุดขาวเพราะว่าภาพจากวีเออาร์ฟ้องว่าดาวยิงฝรั่งเศสถลำล้ำหน้าไปเสียก่อน ทำให้ชุดขาวรอดตัวไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว

หลังจากนั้นเรอัล มาดริดก็ผนึกกำลังโหมเกมรุกเข้าใส่เพื่อหวังทวงประตูคืนมาให้ได้อย่างรวดเร็ว  และก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากความผิดพลาดของจานลุยจิ ดอนนารุมม่า จอมหนึบมือหนึ่งทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ยูโร 2020 ครองบอลไว้กับเท้านานจนเกินไป  ทำให้เบนเซม่าเข้าไปบีบจนรนรานหวังจะหวดบอลทิ้ง แต่ดันไปเข้าทางวินิซิอุส จูเนียร์ ดาวเตะดาวโรจน์ทีมชาติบราซิล ตบเรียดย้อนศรมาที่ระยะราว 7 หลาหน้าปากประตูให้เบนเซม่ากระทุ้งเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 61 แต่สกอร์รวมราชันชุดขาวก็ยังตกเป็นฝ่ายตามหลังเปแอสเช 1 – 2

อย่างไรก็ดีค่ำคืนนี้มันพรหมลิขิตเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเรอัล มาดริดจะทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้ในที่สุด  หลังจากราชันชุดขาวมาได้สองดอกรัว ๆ ภายใน 2 นาทีจากเบนเซม่า และกลายเป็นแฮตทริกในเกมนี้ของสิงห์เฒ่าจากเมืองน้ำหอม  ทำให้สถานการณ์พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือกลายเป็นสกอร์รวมตอนนี้ลูกทีมของคาร์โล อันเชล็อตติพลิกแซงนำ 3 – 2

จุดเริ่มต้นแห่งความหายนะของเปแอสเช

เบนเซม่าเหมาลูกที่สองของเขาในเกมนี้ได้ในนาทีที่ 76 จากการจิ้มบอลยัดเข้าไปในเขตโทษของจอมทัพทีมชาติโครเอเชียอย่างลูก้า โมดริช  ก่อนที่ดาวซัลโวประจำทีมราชันชุดขาวจะแตะบอลในเขตโทษพร้อมตะบันผ่านตัวดอนนารุมม่าเข้าไปตุงตาข่ายให้ราชันชุดขาวพลิกแซงนำ 2-1 พร้อมทำสกอร์รวมไล่มาเท่ากันที่ 2 – 2

แข้งเปแอสเชยังไม่หายช็อกจากการโดนแซงนำ  หนำซ้ำต้องมาเสียลูกที่ 3 ในเกมนี้ในอีก 2 นาทีถัดมาเท่านั้นเอง  โดยโรดริโก้ฉกบอลจากการเขี่ยกลางสนามเปิดเกมของเปแอสเช  ก่อนที่จะไหลบอลออกทางด้านซ้ายให้วินิซิอุสควบเข้าไปปาดบอลไปหน้าเขตโทษ  แล้วมาร์กินญอส ปราการหลังทีมชาติบราซิล หวังดีดสกัดบอลให้พ้น ๆ ออกไป แต่ดันไปเข้าทางปืนของเบนเซม่าซัดตามน้ำแบบไม่ต้องจับเข้าไปตุงตาข่ายให้ราชันชุดขาวนำห่างออกไปเป็น 3 – 1 พร้อมกับสกอร์รวมที่แซงนำ 3 – 2 เป็นที่เรียบร้อย

แม้ช่วงเวลาที่เหลือเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีมเปแอสเช จะเทหมดหน้าตักด้วยการส่งตัวรุกลงไปหวังใช้ความสดบดทวงประตูคืน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มได้  แม้ว่าจะได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกในช่วงก่อนหมดเวลาการแข่งขันจากการบันจงปั่นของลีโอเนล เมสซี่ มหาเทพลูกหนังทีมชาติอาร์เจนติน่า บอลโค้งข้ามกำแพงเกือบจะเลี้ยวเสียบสามเหลี่ยมเสาแรก แต่น้ำหนักบอลเกินไปหน่อยทำให้ไปตกลงที่ตาข่ายด้านบนอย่างได้ลุ้นสุด ๆ