อาร์เซน่อล เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอย่างสุดมันครบรสชาติ 3-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2022 ซึ่งแมตช์นี้มีครบเครื่องทั้งชนเสาชนคาน, เช็กวีเออาร์, สองจุดโทษ และหนึ่งในนั้นก็เป็นการสังหารพลาดของบรูโน่ แฟร์นันด์ส สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส ทำให้นำไปสู่ความปราชัยในที่สุด และจากชัยชนะในเกมนี้ส่งให้ไอ้ปืนใหญ่ขึ้นไปรั้งที่ 4 มีเพิ่มเป็น 60 คะแนนจาก 33 นัด และทิ้งห่างอันดับ 5 อย่างสเปอร์ส 2 แต้ม หลังจากลูกทีมของอันโตนิโอ คอนเต้บุกไปคว้าชัยจากเบรนท์ฟอร์ดไม่สำเร็จแชร์แต้มกันไป 0 – 0
นาทีที่ 2 ปืนใหญ่ ขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่กรานิต ซาก้า ห้องเครื่องทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ แล้วราฟาเอล วาราน ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส พลาดเคลียร์ไม่โดนบอล ทำให้ไปเข้าทางของบูคาโย่ ซาก้า ดาวเตะดาวโรจน์ทีมชาติอังกฤษ ที่อยู่ทางเสาไกล ก่อนที่จะบรรจงปั่นด้วยซ้ายไปติดเซฟของดาบิด เด เคอา นายทวารจอมเก๋าทีมชาติสเปน แต่ว่าบอลยังมาเข้าทางปืนของนูโน่ ตาวาเรสซ้ำดาบสองเผาขนไม่เหลือซาก 1 – 0
นาทีที่ 11 ผีแดงพลาดโอกาสที่จะตามตีเสมอไปอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 11 เมื่อแอรอน แรมส์เดลออกบอลจากหน้าปากประตูตนเองพลาดไปเข้าทางสกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ดาวเตะทีมชาติสกอตแลนด์ ก่อนที่จะไหลบอลต่อให้บรูโน่ได้ซัดจ่อ ๆ แต่ว่ากาเบรียล มากัลเญสยังตามมาบล็อกให้บอลแฉลบเปลี่ยนทางออกหลังไปได้อย่างทันท่วงที
นาทีที่ 24 ดีโอโก้ ดาโลต์หวิดตีเสมอให้แมนฯยูฯได้สำเร็จ เมื่อสบโอกาสได้กดด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลพุ่งไปชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย แต่อาร์เซน่อลก็ตอบโต้อย่างทันควันในอีกนาทีถัดมา โดยมาร์ติน โอเดการ์ดโชว์สเต็ปเทพไขว้บอลทะลุช่องให้เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปกดด้วยขวา แต่ก็ยังติดเซฟของเด เคอา
นาทีที่ 27 เอ็นเคเทียห์ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ถูกวีเออาร์ริบสกอร์คืนเพราะว่าอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แต่โชคก็ยังเข้าข้างไอ้ปืนใหญ่เมื่อผู้ตัดสินตามไปเช็กวีเออาร์ย้อนหลังว่าอเล็กซ์ เตลลิสไปทำฟาวล์ซาก้าในเขตโทษ ก่อนที่จะตัดสินให้จุดโทษไอ้ปืนใหญ่ และบูกาโย่ ซาก้ารับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้เดอะกันเนอร์สหนีห่างออกไปเป็น 2 – 0 ในนาทีที่ 31
นาทีที่ 34 ผีแดง หวนคืนสู่เกมได้อย่างทันควัน โดยเนมานย่า มาติชเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้สอดเข้าไปโขกตุงตาข่ายไล่มาเป็น 1 – 2 ซึ่งนับเป็นลูกที่ 100 ในพรีเมียร์ลีกของกัปตันทีมชาติโปรตุเกสอีกด้วย รวมทั้งยังได้มอบประตูนี้ให้แด่ลูกชายฝาแฝดที่เพิ่งเสียชีวิตหลังคลอดไปหยก ๆ
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เปิดหน้าแลกกันอย่างสนุกถูกใจแฟนบอล และต่างมีโอกาสบวกสกอร์เพิ่ม โดยเด เคอาเซฟลูกยิงของโมฮาเหม็ด เอลนินี่ในนาทีที่ 39 ขณะที่แรมส์เดลก็ออกแรงพุ่งปัดลูกยิงของเตลลิสในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเข้าสู่นาทีที่ 2
นาทีที่ 55 ผีแดงพลาดโอกาสทองฝังเพชรที่จะไล่ตีเสมอไปอย่างเหลือเชื่อ เมื่อตาวาเรสไปเจตนาทำแฮนด์บอลในเขตโทษ แต่ว่าบรูโน่ดันสังหารไปชนโคนเสาอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ในอีก 3 นาทีถัดมาแอนโธนี่ อีแลงก้า หัวหอกดาวโรจน์ชาวสวีดิช ได้ตะบันด้วยขวาในเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของแรมส์เดล
นาทีที่ 60 โรนัลโด้น่าจะกดเม็ดสองของเข้าได้ในเกมนี้ โดยเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัยจากแดนฝอยทองหลุดเข้าไปกดด้วยขวาเน้น ๆ ตุงตาข่าย แต่ว่าโดนวีเออาร์ริบสกอร์จับเป็นลูกล้ำหน้า
ผีแดงก็ได้ลุ้นตีเสมออาร์เซน่อลอีกครั้ง ไม่สำเร็จแถมโดนอีกลูก
นาทีที่ 63 หลังจากโรนัลโด้แทงบอลทะลุช่องไปให้ดาโลต์ หลุดเข้าไปตะบันด้วยขวายัดเสาแรก แต่ว่าแรมส์เดลยังบินปัดปลายมือแล้วบอลไปชนโคนเสาเข้าอย่างจัง
นาทีที่ 70 สาวกปืนใหญ่ทั่วทั้งเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมต่างพากันหายใจกันได้อย่างทั่วท้อง เมื่อทีมในดวงใจได้ประตูตอกฝาโรงในนาทีที่ 70 จากจังหวะสวนกลับที่เอลนินี่ไปแย่งบอลจากบรูโน่ได้ที่หน้าเขตโทษของตนเอง แล้วไหลบอลไปให้กรานิต ซาก้าได้ตะบันอย่างเข้าข้อด้วยขวาบอลพุ่งราวติดจรวดแหวกแข้งอสูรแดงเข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงาม 3 – 1
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม:
อาร์เซน่อล (4-2-3-1): แอรอน แรมส์เดล, เซดริก โซอาเรส (ทาคาฮิโระ โทมิยาสุ นาทีที่ 91), เบน ไวท์, กาเบรียล มากัลเญส, นูโน่ ตาวาเรส, โมฮมเหม็ด เอลนินี่, กรานิต ซาก้า, บูคาโย่ ซาก้า (ร็อบ โฮลดิ้ง นาทีที่ 74), มาร์ติน โอเดการ์ด, เอมิล สมิธ โรว (กาเบรียล มาร์ตินเนลลี่ นาทีที่ 64), เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์
โค้ช: มิเกล อาร์เตต้า
แมนฯยูฯ (4-2-3-1): ดาบิด เด เคอา, ดีโอโก้ ดาโลต์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ราฟาเอล วาราน, อเล็กซ์ เตลลิส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เนมานย่า มาติช (มาร์คัส แรชฟอร์ด นาทีที่ 77), แอนโธนี่ อีแลงก้า (เจสซี่ ลินการ์ด นาทีที่ 77), บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ฆวน มาต้า นาทีที่ 84), เจดอน ซานโช่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
โค้ช: ราล์ฟ รังนิก
กรรมการ: เคร็ก พาวสัน

