ลิเวอร์พูลแผ่วปลายโดนเบนฟิก้าตีเจ๊าแต่ยังเข้าตัดเชือกยูซีแอล
ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ทำได้เพียงแค่เปิดแอนฟิลด์โดนเบนฟิก้า ยักษ์ใหญ่ในลีกโปรตุเกส บุกมาไล่บี้ตีเสมอได้ไปสุดมัน 3-3 ในช่วงท้ายเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศนัดสอง เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2022 หลังจากพักตัวหลักเอาไว้หลายราย แต่ก็ยังดีพอที่จะผ่านเข้ารอบรอบชนะเลิศไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 6-4 และจะเข้าไปตัดเชือกกับ แชมป์ยูโรปา ลีก ซีซั่นที่แล้วจากลา ลีกาสเปนอย่างบียาร์เรอัลเป็นด่านต่อไป
เกมนี้เจอร์เก้น คล็อปป์ดร็อปตัวจริงเอาไว้มากถึง 7 ตำแหน่งเลยทีเดียว เพื่อที่จะเก็บความสดเอาไว้บดกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบรองชนะเลิศศึกเอฟเอ คัพที่เวมบลี่ย์ ในวันที่ 16 เมษายน 2022 โดยปรับแนวรุกยกแผงหันมาใช้บริการของโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หัวหอกจอมเก๋าทีมชาติบราซิล ประสานงานร่วมกับดีโอโก้ โชต้า ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส และหลุยส์ ดิอาซ จรวดทางเรียบทีมชาติโคลอมเบีย
เหล่าสาวกเดอะ ค็อปในแอนฟิลด์ได้เฮกันลั่นสนามตั้งแต่นาทีที่ 21 เมื่อคอสตาส ซิมิคาสครอสบอลโค้งไปให้อิบราฮิมา โกนาเต้โขกกดลงพื้นเบียดเข้าเสาแรกเข้าไป 1-0 ทำให้สกอร์รวมสองนัดหงส์แดงหนีห่างออกไปเป็น 4-1
เบนฟิก้า มาไล่ตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 31 จากจังหวะที่ดีโอโก้ กอนซัลเวสแทงบอลไปแฉลบเจมส์ มิลเนอร์ ก่อนที่บอลจะไปเข้าทางกอนซาโล่ รามอสได้โอกาสทองหลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือนายทวารเบอร์หนึ่งทีมชาติบราซิลอย่างอลิซอน เบ็คเกอร์เข้าไปตุงตาข่าย 1-1 แม้ว่าช็อตนี้จะมีการเช็กวีเออาร์ แต่สุดท้ายก็ยืนยันว่าไม่ล้ำหน้าแต่อย่างใด
ลิเวอร์พูลขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 55 จากจังหวะที่ดิอาซจับบอลยาวล้นไปถึงโอดิสเซอัส วลาโชดิมอส แต่ว่านายทวารเบนฟิก้าดันรับบอลพลาด แม้ว่ายาน แฟร์ ต็องเก้นจะตามไปเคลียร์แต่ก็ไม่ดีกลายเป็นบอลไปเข้าทางโชต้าทางด้านซ้าย ก่อนที่หัวหอกจากแดนฝอยทองจะครอสไปที่หน้าปากประตูให้ฟีร์มีโน่หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดตุงตาข่ายอย่างง่ายดาย 2-1
หลังจากนั้นคล็อปป์ปรับเกมด้วยการส่ง 3 แข้งหลักที่พักเอาไว้ลงพร้อมกันในนาทีที่ 57 ไล่ไปตั้งแต่ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์จอมเก๋าทีมชาติสเปน และฟาบินโญ่ ดาวเตะสารพันประโยชน์ทีมชาติบราซิล รวมไปถึงโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซุปตาร์ทีมชาติอียิปต์
การส่งตัวหลักลงไปนวดเบนฟิก้าเห็นผลทันตาในนาทีที่ 65 เมื่อหงส์แดงสยายปีกหนีห่างออกไปเป็น 3-1 โดยที่ซิมิคาสเปิดฟรีคิกจากทางด้านซ้ายไปที่หน้าประตูให้ฟีร์มีโน่สลัดหนีตัวประกบวิ่งไปแปสวนตัววลาโชดิมอสเข้าไปอย่างเฉียบขาด และนับเป็นลูกที่สองในเกมนี้ของสิงห์เฒ่าชาวแซมบ้า ทำให้มีลุ้นแฮตทริกในเกมนี้ หลังจากที่เจ้าบ้านทำสกอร์รวมสองนัดทิ้งไปไม่เห็นฝุ่น 6-2
แต่เบนฟิก้าก็ยังไม่ถอดใจง่าย ๆ ยังคงทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนแฟนบอลที่ตามมาเชียร์กันถึงในแอนฟิลด์ และมาได้ประตูตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-3 เมื่อโรมัน ยาเรมชุค ซึ่งถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในเกมนี้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลัง ได้โอกาสทองหลุดเดี่ยวเข้าไปแตะบอลหลบอลิซอนพร้อมแปเข้าไปนิ่ม ๆ ในนาทีที่ 73 แม้ว่าจะมีการตีธงขึ้นมาจากผู้ช่วยผู้ตัดสิน แต่พอไปเช็กวีเออาร์แล้วไม่ได้ล้ำหน้าแต่อย่างใด
หลังจากนั้น เจ้าเหยี่ยวลิสบอน ก็กลายเป็นบอลได้ใจไล่บี้ใส่หงส์แดงอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะตามตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 82 โดยเอแวร์ตอนหลุดกับดักล้ำหน้าแล้วปล่อยให้ดาวซัลโวประจำทีมอย่างดาร์วิน นูนเญซเอี้ยวตัวซัดด้วยซ้ายผ่านตัวอลิซอนเข้าไปอย่างเฉียบขาด 3-3
แม้ว่านาทีสุดท้ายของเกมนี้ลิเวอร์พูลจะสามารถส่งลูกเข้าไปตุงตาข่ายได้จากการโชว์สเต็ปเทพของซาลาห์ ก่อนที่จะจ่ายบอลไปที่เสาไกลให้คู่หูมหาประลัยอย่างซาดิโอ มาเน่ ซึ่งเกมนี้ก็ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง ซัดเข้าไปง่าย ๆ แต่ว่าดันกลายเป็นจังหวะล้ำหน้าของเจ้าของแชมป์ฟุตบอล แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2022 จากเซเนกัลไปเสียก่อน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม:
ลิเวอร์พูล (4-3-3): อลิซอน เบ็คเกอร์, โจ โกเมซ, อิบราฮิมา โกนาเต้, โฌแอล มาติป, คอสตาส ซิมิคาส, นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์ (ติอาโก้ อัลกันตาร่า นาทีที่ 57), จอห์นแดน เฮนเดอร์สัน (ฟาบินโญ่ นาทีที่ 57), ดีโอโก้ โชต้า (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 57), โรแบร์โต้ ฟีมีร์โน่, หลุยส์ ดิอาซ (ซาดิโอ มาเน่ นาทีที่ 66)
ผู้จัดการทีม: เจอร์เก้น คล็อปป์
เบนฟิก้า (4-4-2): โอดิสเซอัส วลาโชดิมอส, กิลแบร์โต้ (อันเดร อัลเมด้า นาทีที่ 91), นิโกลัส โอตาเมนดี้, ยาน แฟร์ ต็องเก้น, อเล็กซ์ กริมัลโด้, ดีโอโก้ กอนซัลเวส (โรมัน ยาเรมชุค นาทีที่ 46), ยูเลียน ไวเกิ้ล, อเดล ทารับต์ (ชูเอา มาริโอ นาทีที่ 66), เอแวร์ตอน (กิล ดิอาส นาทีที่ 91), กอนซาโล่ รามอส (เปาโล แบร์นาร์โด้ นาทีที่ 78), ดาร์วิน นูนเญซ
ผู้จัดการทีม: เนลซอน เวริสโม่
ผู้ตัดสิน: เซอร์ดาร์ โกซูบูยุค (ฮอลแลนด์)

