เบนเซม่าฮีโร่ซัลโวชัยช่วงต่อเวลาพาราชันชุดขาวตัดเชือกยูซีแอล
ราชันชุดขาว จ่าฝูงลา ลีกาสเปน ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปได้แบบสุดดราม่า หลังจากพังคารังพ่ายแชมป์เก่าจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่าง เชลซี ในช่วงเวลา 90 นาที ทำให้สกอร์รวมเท่ากันที่ 4-4 ก่อนที่ราชันชุดขาวจะไขก๊อกสองรวมพลังกันคว้าชัยไปได้จากการซัลโวของคาริม เบนเซม่า ดาวยิงจอมเก๋าทีมชาติฝรั่งเศส ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2022 ทำให้ผ่านรอบก่อนรองชนะเลิศไปด้วยสกอร์รวมสุดเดือด 5-4 และจะเข้าไปรอตัดเชือกกับผู้ชนะระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก หรือ แชมป์เก่าลา ลีกาสเปนอย่างแอตเลติโก มาดริดเป็นด่านต่อไป
แม้เรอัล มาดริดจะกุมความได้เปรียบเอาไว้จากการบุกไปตุนสกอร์เอาไว้ในนัดแรกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ 3-1 รวมทั้งยังกวาดชัยในลา ลีกาสองนัดซ้อนจากการเปิดซานติอาโก เบร์นาบิวทุบเกตาเฟ่ไปเบาๆ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ แต่ว่าทางเชลซีก็เรียกความมั่นใจกลับมาได้เพียบจากการบุกไปไล่ต้อนเซาแธมป์ตัน 6-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษนัดล่าสุด รวมทั้งยังหวังบุกมาคว้าชัยด้วยสกอร์ห่าง 2 ลูก เพื่อหวังลากไปดวลต่อกันถึงฎีกาในช่วงต่อเวลาพิเศษเป็นอย่างน้อย
ราชันชุดขาวเป็นฝ่ายออกหมัดทักทายก่อนในนาทีที่ 10 หลังจากรีช เจมส์เสียฟาวล์จากการเข้าไปตัดเกมวินิซิอุส จูเนียร์ ดาวเตะดาวโรจน์ทีมชาติบราซิล ก่อนที่เบนเซม่าอาสาขอลองส่องฟรีคิกจากระยะอันตรายหน้าเขตโทษ แต่ว่าสิงห์เฒ่าตราไก่วัย 34 ปีจะปั่นด้วยขวาบอลเหินข้ามคานออกหลังไป
หลังจากนั้นอีกเพียงแค่ 3 นาทีสิงห์บลูก็ตอบโต้อย่างทันควัน โดยมาร์กอส อลอนโซ่บรรจงปั่นลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แล้วบอลโค้งไปในกรอบ 6 หลาหน้าปากประตู ก่อนที่อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ปราการหลังทีมชาติเยอรมัน จะสลัดตัวประกบฉีกมาโขกปลิ้นข้ามคานออกไป
อย่างไรก็ดี เชลซี ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้หลังผ่านไปอีกเพียงแค่ 2 นาที โดยมาจากจังหวะทำชิ่งกันทางด้านซ้าย แล้วบอลไปโดนหน้าขาของติโม แวร์เนอร์ หัวหอกทีมชาติเยอรมัน และกลายเป็นดีเมื่อบอลเด้งเข้าไปในเขตโทษ ทำให้เมสัน เม้าน์ทสอดไปเก็บบอล ก่อนที่จะได้ช่วงแล้วจัดการปั่นด้วยขวาผ่านมือติโบต์ กูร์กตัวส์โค้งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างหยดย้อย
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ต่างผลัดกันรับผลัดกันรุกอย่างเร้าใจแฟนบอลทั่วทั้ง ซานติอาโก เบร์นาบิว ก่อนที่เชลซีมาได้ประตูที่ต้องการหนีห่างออกไปเป็น 2-0 พร้อมปลดล็อกให้สกอร์รวมมาเท่ากันที่ 3-3 จากจังหวะที่เม้าน์ทบรรจงเปิดเตะมุมทางด้านขวา แล้วบอลโค้งไปที่เสาไกลพร้อมข้ามหัวของดาวิด อลาบา ก่อนที่จะไปตกใส่รือดิเกอร์เก็บส้มหล่นโขกเน้น ๆ บอลพุ่งสวนตัวกูร์กตัวส์เข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 51
เท่านั้นมันยังไม่หนำใจในเมื่อลูกทีมของโธมัส ทูเคิ่ลมาได้ประตูสำคัญนำอย่างขาดลอยอ 3-0 พร้อมทำให้สกอร์รวมแซงเป็น 4-3 เมื่อมาเตโอ โควาซิชแทงบอลทะลุช่องอย่างแจ่มให้แวร์เนอร์หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่ดาวเตะอินทรีเหล็กจะหลอกล่อกาเซมิโร่ มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล จนสบโอกาสแล้วซัดบอลไปแฉลบบล็อกของกูร์กตัวส์เข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 75 และหากทางสิงโตน้ำเงินครามสามารถรักษาสกอร์นี้เอาไว้ได้ก็จะผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปทันที
ก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 10 นาทีฝันของเชลซีก็ต้องสลายไปในพริบตา เมื่อเรอัล มาดริดรวมพลังกันไล่บี้จนตีไข่แตกได้สำเร็จ 1-3 เท่ากับตอนนี้สกอร์รวมสองนัดเท่ากันที่ 2-2 โดยได้มาจากจังหวะตัดเกมทางด้านซ้าย แล้วบอลมาเข้าทางลูก้า โมดริช จอมทัพทีมชาติโครเอเชีย โชว์ความเหนือชั้นด้วยการดีดไซด์ก้อยข้ามหัวติอาโก ซิลวา ปราการหลังจอมเก๋าทีมชาติบราซิล โค้งไปที่เสาไกลให้โรดริโก้โฉบเข้ามาตั้งเท้าชาร์จจากระยะเพียงแค่ 6 หลาเบียดเสาแรกเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้เกมนี้ต้องไปตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษอีกครึ่งละ 15 นาที
ราชันชุดขาว มาได้ประตูชัยเมื่อผ่านเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บในนาทีที่ 96 เมื่อวินิซิอุสพาบอลเข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายดึงจังหวะจนได้ช่อง แล้วจึงยกบอลไปให้เบนเซม่าลอยตัวเข้ามาโขกจากระยะเพียงแค่ 6 หลาไม่เหลือซาก 2-3 ทำให้ลูกทีมของคาร์โล อันเชล็อตติเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 5-4
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม:
เรอัล มาดริด (4-3-3): ติโบต์ กูร์กตัวส์, ดานี่ การ์บาฆัล, นาโช่ เฟร์นานเดซ (ลูคัส บาสเกซ นาทีที่ 88), ดาวิด อลาบา, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ (มาร์เซโล่ นาทีที่ 78), โทนี่ โครส (เอดูอาร์ คามาวิงก้า นาทีที่ 73), กาเซมิโร่ (โรดรีโก้ นาทีที่ 78), ลูก้า โมดริช, เฟเดริโก้ บัลเบเต้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์ (ดานี่ เซบายอส นาทีที่ 115)
ผู้จัดการทีม: คาร์โล อันเชล็อตติ
เชลซี (4-3-3): เอดูอาร์ เมนดี้, รีช เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (ฮาคิม ซีเย็ค นาทีที่ 106), รูเบน ลอฟตัส-ชีค (ซาอูล ญีเกซ นาทีที่ 106), มาเตโอ โควาซิช (จอร์จินโญ่ นาทีที่ 83), เมสัน เม้าน์ท, ไค ฮาแวร์ตซ์, ติโม แวร์เนอร์ (คริสเตียน พูลิซิช นาทีที่ 100)
ผู้จัดการทีม: โธมัส ทูเคิ่ล
ผู้ตัดสิน: ซิมอน มาร์ซิเนี้ยค (โปแลนด์)

