ศึก ฟุตบอลโลก 2022 โปรตุเกส ลอยลำเข้าสู่รอบสุดท้ายที่กาตาร์รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้ไปได้ตามระเบียบ หลังจากเปิดบ้านดับซ่ามาซิโดเนียเหนือไปแบบชิล ๆ 2 – 0จากการเหมาคนเดียวสองลูกรวดของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส สตาร์จากยักษ์หลับในพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเพลย์ออฟรอบชิงชนะเลิศ โซนยุโรป เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2022
โปรตุเกสไม่พลาดเขี่ยมาซิโดเนียเหนือร่วงตามคาด ฟุตบอลโลก 2022
โปรตุเกส ส่งมาซิโดเนียเหนือจอดป้ายเพียงแค่เกมเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ โซนยุโรป หลังจากเปิดรังฝังไปนิ่ม ๆ ด้วยสกอร์ 2 – 0 พร้อมปิดตำนานแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ไปเป็นที่เรียบร้อย ทำให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย ได้มีโอกาสเข้าไปลุ้นชูถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกร่วมกับทัพฝอยทองด้วยวัย 37 ปี
แฟร์นานโด ซานโต๊สนำ โปรตุเกส กลับมาคว้าชัยในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกได้อีกครั้งในรอบ 3 เกมหลังสุดด้วยการเปิดบ้านเอาชนะตุรกีไปอย่างขาดลอย 3 – 1 ในรอบเพลย์ออฟรอบรองชนะเลิศ โซนยุโรป ขณะที่มาซิโดเนียเหนือภายใต้การกุมบังเหียนของบลาโกย่า มิเลฟสกี้กำลังคึกคักจากการกวาดชัยในการคัดบอลโลกมา 3 นัดรวด โดยเฉพาะรอบที่ผ่านมาสร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกไปเขี่ยแชมป์ยูโร 2020 อย่างอิตาลีจอดเพียงแค่รอบคัดเลือกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้ประตูชัยจากการตะบันแบบผีจับยัดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 1 – 0
ฝอยทอง พร้อมจัดหนักจัดเต็มเมื่อได้ฟูลแบ็กตัวเก่งจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างชูเอา กานเซโล่ ซึ่งพ้นโทษแบน กลับมายืนแบ็กขวาแทนที่ดีเอโก้ ดาโลต์ โดยมีคู่หูต่างวัยอย่างบรูโน่ผนึกกำลังร่วมกับโรนัลโด้เป็นอาวุธหนักในแนวรุก ขณะที่มาซิโดเนียเหนือพร้อมส่งชุดใหญ่บุกเยือนแบบไม่มีอะไรจะเสีย โดยได้สองมิดฟิลด์ตัวหลักอย่างเอลิฟ เอลมาส และดิโอเมียร์ คอสตาดินอฟ พ้นโทษแบนมาเพิ่มความแกร่งในแผงกลาง โดยมีจอมหนึบอย่างสโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้เป็นปราการด่านสุดท้ายให้อุ่นใจเหมือนเช่นเคย
โปรตุเกส พลาดโอกาสทองที่จะเป็นฝ่ายขึ้นนำ 1 – 0 ตั้งแต่นาทีที่ 13 เมื่อโรนัลโด้หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่จะตวัดหักข้อตามน้ำส่งบอลผ่านมือดิมิตริเยฟสกี้ไปได้แล้ว แต่ว่าสุดท้ายบอลหลุดออกเสาไกลไปชนิดที่แฟนเจ้าถิ่นลุ้นกันตัวเก็งไปทั้งสนาม
มาซิโดเนียเหนือออกหมัดโต้ตอบกลับบ้างในอีก 2 นาทีถัดมา โดยที่เอ็กยาน อลิออสกี้เติมเกมรุกขึ้นมาทางด้านซ้ายพร้อมหาช่องจนได้โอกาสลองส่องจากหน้าเขตโทษ และบอลผ่านแบร์นาร์โด้ ซิลวา ปีกตัวจี๊ดจากแมนฯซิตี้ ที่พยายามเข้าไปบล็อก ก่อนที่จะไปติดขากานเซโล่ปลิ้นข้ามคานออกหลังไป
บรูโน่บรรจงเปิดเตะมุมจากทางฝั่งขวา แล้วบอลโค้งไปที่เสาไกลตกใส่หัวดีโอโก้ โชต้า ดาวยิงจากรองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างลิเวอร์พูล โขกกดลงพื้นบอลกระดอนผ่านมือดิมิตริเยฟสกี้ไปได้แล้ว แต่ว่าดันข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 24
โปรตุเกส ปลดล็อกพร้อมทะยานออกนำ 1 – 0 ได้สำเร็จในนาทีที่ 32 จากความผิดพลาดของมาซิโดเนียเหนือเอง โดยที่สเตฟาน ริสตอฟสกี้จ่ายบอลขวางสนามพลาดโดนบรูโน่เหยียดเท้าดักบอลไหลไปเข้าทางโรนัลโด้ลากจี้เข้าหาเขตโทษ ก่อนที่จะดีดลอดขาแข้งทีมเยือนมาให้บรูโน่สอดขึ้นมาซัดตามน้ำ แม้ว่าบอลจะไปติดปลายมือของดิมิตริเยฟสกี้ แต่ว่าก็ยังแรงพอที่จะเข้าไปตุงตาข่าย
นาทีที่ 40 โปรตุเกส มีโอกาสที่จะหนีห่างออกไปเป็น 2 – 0 เมื่อเปเป้วางบอลยาวทิ้งออกไปทางด้านซ้ายให้โรนัลโด้หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่จะตวัดเข้าไปในกรอบ 6 หลาหน้าปากประตูเข้าทางปืนของโชต้าโฉบมาตะบันยัดเสาแรก แต่โชคไม่เข้าข้างบอลเพียงแค่เข้าข้างตาข่ายเท่านั้นเอง
แม้ว่าเจ้าถิ่นยังคงเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าในครึ่งหลัง แต่ว่าทัพฝอยทองก็เล่นด้วยความระมัดระวัง ไม่ได้ใส่เกียร์ห้าโหมบุกใส่แบบบ้าระห่ำเนื่องจากไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนอิตาลี
อย่างไรก็ดีแฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮกันลั่นอีกครั้ง หลังจากที่ทีมบ้านเกิดหนีห่างไปเป็น 2 – 0 ในนาทีที่ 65 จากจังหวะสวนกลับ แล้วโชต้าขยับมารับบอลทางด้านซ้ายพร้อมตักเข้าไปในเขตโทษให้บรูโน่หลุดกับดักล้ำหน้าตั้งเท้าแปเน้น ๆ สวนตัวดิมิตริเยฟสกี้เข้าไปไม่เหลือซาก
หลังจากนั้นทางด้านมาซิโดเนียเหนือพยายามเปิดเกมรุกเข้าแลกเพื่อหวังทวงประตูคืนมาให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่ก็ทำได้ดีที่สุดในนาทีที่ 72 เมื่อเอนิส บาร์ดี้ขยับขึ้นมาเก็บบอลทางด้านเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่จะก้มหน้าตะบันเต็มข้อล่อเต็มแข้งด้วยขวาหนีแนวรับของโปรตุเกส แต่ว่าบอลก็บดหลุดเสาไกลออกหลัง
นาทีที่ 80 โปรตุเกส พลาดโอกาสที่จะตอกย้ำชัยไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่แข้งมาซิโดเนียเหนือเสียสมาธิมัวแต่ไปประท้วงฟ้องเอาฟาวล์จากผู้ตัดสิน แต่โดนบรูโน่ฉวยโอกาสสวนกลับพาบอลหนีขึ้นมาทางด้านซ้ายพร้อมแตะเข้าเขตโทษ ก่อนที่จะปาดไปในกรอบ 6 หลาหน้าปากประตูให้ โรนัลโด้ ได้ชาร์จเผาขน แต่ว่าดาร์โก้ เวลคอฟสกี้ยังตามมาช่วยบล็อกเอาไว้ได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว
