ฟิออเรนติน่า ปิดท้ายศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลีฤดูกาล 2021 – 2022 ไปได้อย่างสวยสดงดงาม หลังจากได้หวนคืนสู่เวทีบอลถ้วยระดับสโมสรยุโรปอีกครั้งในรอบ 6 ปีเลยทีเดียว แม้จะเป็นเพียงแค่การได้ร่วมวงโม่แข้งในถ้วยน้องใหม่อย่างยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีกก็ตามที หลังจากเปิดสตาดิโอน อาร์เตมิโอ ฟรังคี่สอย ยูเวนตุส ไปได้ตามเป้า 2-0 ทำให้แมตช์อำลาทีมม้าลายของทั้งจอร์โจ้ คิเอลลินี่ และเปาโล ดีบาล่าจะกร่อยไปในทันตา ในเกมลีกสูงสุดแดนมะกะโรนี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2022
ฟิออเรนติน่า เน้นฟันสามแต้มในเกมนี้ให้ได้สถานเดียว เนื่องจากเป็นการลงเล่นเกมเหย้านัดส่งท้ายของฤดูกาล รวมทั้งยังต้องการการันตีอันดับ 7 บนตารางกัลโช่ เซเรีย อา ขณะที่ยูเวนตุสลอยตัวกับการคว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติในซีซั่นหน้าไปนานแล้ว แต่เกมนี้จะเป็นเกมสั่งลาของสองแข้งอย่างคิเอลลินี่ และดีบาล่า
เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายได้เสียวก่อนในนาทีที่ 20 จากการวางลูกฟรีคิกทางด้านขวาเข้าไปในเขตโทษให้นิโก้ กอนซาเลซโขกชงเข้าในไปให้จาโคโม่ เบนนาเวนตูร่าสอดขึ้นมาหวดตูมเดียวด้วยซ้าย แต่น่าเสียดายที่บอลไปแฉล็บบล็อกออกหลัง
หลังจากนั้นม่วงมหากาฬเครื่องร้อนประเคนเกมรุกใส่เป็นชุด และมีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 27 เมื่อคริสตอฟ พิออนเท็คเก็บบอลได้ในเขตโทษแล้วแปะบอลย้อนหลังตั้งคืนให้เบนนาเวนตูร่าวิ่งมาดึงหนีฟาบิโอ มีเร็ตติ ก่อนที่จะสบโอกาสเลยซัดหักข้อด้วยขวาไปแฉลบบล็อกของคิเอลลินี่หลุดเสาแรกออกไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียว
ม่วงมหากาฬ พยายามจนสัมฤทธิ์ผลจนได้ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โดยได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะชุลมุนกันหน้าปากประตูของทีมม้าลาย ก่อนที่เบนนาเวนตูร่าจะล้มตัวจิ้มบอลออกทางด้านซ้ายปให้อัลเฟรด ดันแคนตามมากระทุ้งตุงตาข่ายเข้าไปอย่างเต็มเหนี่ยว
เจ้าบ้านมีโอกาสลุ้นเม็ดสองในเกมนี้ในนาทีที่ 75 โดยนิโก้ กอนซาเลซครอสบอลข้ามหัวพิออนเท็คเกือบหลุดไปที่เสาไกล แต่ยังดีที่ว่าดานิเอเล่ รูกานี่โหม่งเคลียร์ทิ้งออกไปได้ทัน
แต่ถัดมาอีกเพียงแค่ 3 นาที ม่วงมหากาฬพลาดโอกาสหนีห่างออกไปเป็น 2-0 อย่างน่าเสียดาย โดยมาจากจังหวะเตะมุมทางด้านซ้าย แล้วบอลลอยเลยไปที่เสาไกลเข้าทางพิออนเท็คโขกไปติดเซฟคาร์โล ปินโซโญ่แทบควักออกมาจากบนเส้น แม้ว่าบอลจะเป็นใจให้เบนาเวนตูร่าตามซ้ำดาบสอง แต่มันก็ยังไม่ดีพอที่จะบวกสกอร์เพิ่มได้สำเร็จ
ฟิออเรนติน่าก็มาได้ประตูตอกย้ำชัย 2-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ก้าวเข้าสู่นาทีที่ 2 จากความสามารถเฉพาะตัวของตัวสำรองอย่างลูคัส ตอร์เรร่า โดยอดีตดาวเตะอาร์เซน่อลพาบอลแหวกหนีเข้าไปในเขตโทษ แล้วโดนเลโอนาร์โด้ โบนุชชี่เกี่ยวขาร่างร่วงลงไปกองกับพื้นสนาม ทำให้ผู้ตัดสินไม่รีรอที่จะชี้ไปเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่กอนซาเลซจะรับหน้าที่เพชรฆาตสังหารไม่พลาดเป้า
นับเป็นการส่งท้ายซีซั่นนี้ที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อย รวมทั้งยังการันตีการเข้าป้ายที่อันดับ 7 ของ ฟิออเรนติน่า ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมีเพิ่มเป็น 62 คะแนนจาก 38 นัด และทิ้งห่างอันดับ 8 อย่างอตาลันต้า ซึ่งพลาดท่าโดนเอ็มโปลีบุกมาปล้นชัยไปแบบพลิกล็อก 0-1 ห่างสามแต้ม และทั้งคู่ก็แข่งครบโปรแกรมซีซั่นนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ยูเวนตุสต้องปิดฤดูกาล 2021 – 2022 ไปแบบไม่สวยด้วยการพ่ายไปถึง 2 จาก 3 เกมลีกล่าสุด ซึ่งจากสามนัดดังกล่าวเก็บเพิ่มไปได้เพียงแค่แต้มจากการเปิดรังเสมอลาซิโอไปสุดมันส์ 2-2
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม:
ฟิออเรนติน่า (4-3-3): ปิเอโตร แตร์รัชเชียโน่, ลอเรนโซ่ เวนูตี้ (อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า นาทีที่ 61), นิโกล่า มิเลนโควิช, อิกอร์, คริสเตียโน่ บีรากี้, โซเฟียน อัมราบัต, จาโคโม โบนาเวนตูร่า, อัลเฟรด ดันแคน (ลูคัส ตอร์เรร่า นาทีที่ 85), นิโก้ กอนซาเลซ, ริคคาร์โด้ ซาโปนาร่า (โจนาธาน อิโกเน่ นาทีที่ 69), คริสตอฟ พิออนเท็ค (อาร์ตูร์ กาบราล นาทีที่ 65)
โค้ช: วิเชนเต้ อิตาเลียโน่
ยูเวนตุส (4-3-3): มัตเตีย เปริน (คาร์โล ปินโซโญ่ นาทีที่ 46), เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ (ดานิเอเล่ รูกานี่ นาทีที่ 66), มัทไธส์ เดอ ลิกต์, เฟเดริโก้ เบนาร์เดสคี่ (มาร์กเลย์ อาเก้ นาทีที่ 60), มานูเอล โลคาเตลลี่, ฟาบิโอ มีเร็ตติ (เวสตัน แม็คเคนนี่ นาทีที่ 76), อาเดรียง ราบิโอต์, อเล็กซ์ ซานโดร, มอยเซ่ คีน (ดูซาน วลาโฮวิช นาทีที่ 76), เปาโล ดีบาล่า
โค้ช: มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี
ผู้ตัดสิน: ดานิเอเล่ ชิฟฟี่
