บาร์เซโลน่าพลาดโอกาสทองฝังเพชรที่จะกุมความได้เปรียบ นัดแรกศึกยูโรป้า ลีก
ในรอบ 8 ทีมสุดนัดนัดแรกของศึก ยูโรปา ลีก เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2022 จากการทำได้เพียงแค่ออกไปไล่ตีเสมอแฟร้งค์เฟิร์ต ทีมฟอร์มแกร่งแห่งบุดนเดสลีกา ไปอย่างน่าเสียดาย 1-1 ทั้งที่ขุนพลอินทรีแดงดำจากเมืองเบียร์เหลือเพียงแค่ 10 คนในช่วงท้ายเกม
นาทีที่ 3 บาร์ซ่า เกือบบุกไปขึ้นนำอย่างรวดเร็ว โดยเฟร์ราน ตอร์เรส หัวหอกทีมชาติสเปน รับบอลจากหน้าเขตโทษทางด้านขวา และรอจนได้ช่องส่องหนีบล็อคของโอบิเต้ เอ็นดิคก้าไปได้ แล้วบอลหวิดเสียบใต้คาน แต่ว่าเควิน ทรัปป์ยังปัดด้วยปลายมือออกไปได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 5 แฟร้งค์เฟิร์ตก็ออกหมัดตอบโต้ทันควัน เมื่อได้จังหวะการทุ่มเร็วทางด้านซ้าย แล้วไดจิ คามาดะสอดเข้ามารับบอลแล้วตอบเข้าไปในเขตโทษถึงเยสเปอร์ ลินด์สตรอมซัดจังหวะแรกจั่วลมเข้าไปเต็ม ๆ แต่ยังดีที่มาเข้าทางปืนของอัสการ์ คเนาฟฟ์ได้ซัดแต่แฉลบออกหลัง
นาทีที่ 10 เจ้าบ้านก็มีโอกาสที่จะได้เป็นฝ่ายออกนำ 1-0 เมื่อราฟาเอล บอร์เร่ถอยมาเก็บบอลพร้อมแทงออกไปทางขวาให้ลินด์สตรอมสอดเข้าไปในเขตโทษพร้อมตบย้อนกลับมากรอบ 6 หลาหน้าปากประตู แต่ว่าฌิบริล ซาวตั้งเท้าชาร์จบอลออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 17 บาร์ซ่าหวิดได้ส้มหล่นใบเบ้อเริ่ม หลังจากที่แฟร้งค์เฟิร์ตสกัดบอลไปติดพวกเดียวกันเอง แล้วบอลมาเข้าทางตอร์เรสตามไปเก็บบอลพร้อมออกไปทางด้านขวาให้ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็องซัดยัดมุมแคบ แต่ว่าบอลยังไปแฉลบทรัปป์ออกข้างตาข่ายแบบได้เสียวกันเลยทีเดียว
นาทีที่ 30 แฟร้งค์เฟิร์ตน่าจะได้จุดโทษเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่แตร์ ซเตเก้นปัดบอลไม่ดีไปเข้าทางปืนของบอร์เร่เกือบได้ซ้ำ แต่ว่าโดนเซร์คิโอ บุสเก็ตส์ตามมากวาดร่วงในกรอบ 6 หลาหน้าปากประตู แม้ว่าผู้ตัดสินจะชี้ไปที่จุดโทษทันที แต่สุดท้ายแล้วขอวิ่งออกไปเช็กภาพวีเออาร์ข้างสนาม ก่อนที่จะคดีพลิกเปลี่ยนคำตัดสิน ทำให้แฟนบาร์ซ่าที่แห่ตามไปเชียร์ได้หายใจกันทั่วท้อง
นาทีที่ 48 เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมทางด้านขวา แล้วแนวรับบาร์ซ่าโขกสกัดไม่ขาด แล้วบอลดันย้อนเข้ามาหน้าเขตโทษ แถมยังเข้าทางปืนคเนาฟฟ์ได้แต่งหนึ่งจังหวะด้วยซ้ายแล้วซัดด้วยขวาบอลติดไซด์ก้อยผ่านมือแตร์ ซเตเก้นเข้าไปเสียบใต้คานอย่างหยดย้อน
นาทีที่ 63 ตอร์เรสพยายามแหวกบอลหนีขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนที่จะโชว์ความเหนือชั้นด้วยการยกบอลข้ามตูต้า แต่น่าเสียดายที่จังหวะสุดท้ายตัดสินใจไม่ได้เลือกซัดยัดเสาแรก แต่กลายเป็นว่าบอลปลิ้นหลังเท้าเหินข้ามคานไปแบบหมดลุ้น
นาทีที่ 66 บาร์ซ่า ไล่บี้จนตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 จากการประสานงานกันอย่างลงตัวในเขตโทษ โดยที่แฟรงกี้ เดอ ย็องแปะบอลชิ่งคืนให้ตอร์เรสซัดบอลเร็วลอดขาตูต้าผ่านมือทรัปป์เข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ
นาทีที่ 78 แฟร้งค์เฟิร์ตต้องมาเหลือแข้งในสนามเพียงแค่ 10 ตัวเท่านั้นเอง หลังจากที่ตูต้าเสียเหลี่ยเข้าบอลช้ากลายเป็นว่าไปย่ำเอาที่ข้อเท้าของเปดรี ทำให้ผู้ตัดสินแจกเหลือที่สองพร้อมชูใบแดงไล่ออกจากสนามไปอย่างไม่มีทางเลือก
แม้ว่าช่วงเวลาที่เหลือลูกทีมของชาบี เอร์นานเดซจะพยายามฉกฉวยความได้เปรียบในตัวผู้เล่นที่มีมากกว่าพยายามโหมเกมรุกเข้าใส่เพื่อหวังคว้าชัยชนะให้ได้ แต่ว่าทางลูกทีมของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ก็ยังเล่นกันได้อย่างรัดกุมพร้อมกับความเก๋าเกมที่พอตัว ทำให้ยื้อผลเสมอ 1-1 เอาไว้ได้สำเร็จ
จากผลเสมอในเกมนี้ ทำให้ทั้งคู่ต้องไปหวดชี้ชะตากันนัดสอง ในวันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน 2022 โดยสลับกลับมาเป็นทางด้านบาร์ซ่าจะได้เปิดคัมป์นูต้อนรับการมาเยือนของแฟร้งค์เฟิร์ต
สำหรับโปรแกรมในลีกสุดสัปดาห์ของทั้งคู่นั้น ทางด้าน บาร์เซโลน่า ค่อนข้างเจองานง่ายกับการออกไปเยือนทีมรองบ๊วบอย่างเลบานเต้ ในวันที่ 10 เมษายน 2022 ขณะที่แฟร้งค์เฟิร์ตต้องเจองานหนักไม่น้อยแม้ว่าจะได้เฝ้าบ้าน แต่ก็ต้องรอรับมือทีมอันดับ 5 อย่างไฟร์บวร์ก ซึ่งกำลังหวังจบซีซั่นนี้ด้วยการติดท็อปโฟร์เพื่อได้ตั๋วไปลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มซีซั่นหน้าแบบอัตโนมัติ
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม:
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-2-1): เควิน ทรัปป์, ตูต้า, มาร์ติน ฮินเตอร์เร็กเกอร์, โอบิเต้ เอ็นดิคก้า, อัสการ์ คเนาฟฟ์, ฌิบริล ซาว, คริสติยาน ยาคิช (เซบานเตียน โรเด้ นาทีที่ 89), ฟิลิป คอสติช, เยสเปอร์ ลินด์สตรอม (เจมส์ ฮาวก์ นาทีที่ 73), ราฟาเอล บอร์เร่ (แรกนาร์ เอซ นาทีที่ 89), ไดจิ คามาดะ (อัลมามี่ ตูเร่ นาทีที่ 80)
โค้ช: โอลิเวอร์ กลาสเนอร์
บาร์เซโลน่า (4-3-3): มาร์ค-อังเดร แตร์ ซเตเก้น, โรนัลด์ อเราโฮ, เคราร์ด ปีเก้ (เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ นาทีที่ 23), เอริค การ์เซีย, จอร์ดี้ อัลบา, เปดรี, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, กาบี (แฟรงกี้ เดอ ย็อง นาทีที่ 62), ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง, อดาม่า ตราโอเร่ (อุสมาน เดมเบเล่ นาทีที่ 62), เฟร์ราน ตอร์เรส
โค้ช: ชาบี เอร์นานเดซ
ผู้ตัดสิน: เยอร์ดาน โยวาโนวิช (เซอร์เบีย)

