บาร์เซโลน่าเร่งเครื่องไม่ทันพังคาคัมป์นูร่วงยูโรปาลีก
บาร์เซโลน่า เครื่องร้อนช้ากว่าจะมาได้ลูกแรกก็ปาเข้าไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้ไล่ตีเสมอไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต ไม่ทัน หลังโดนทีมแกร่งแห่งบุนเดสลีกาเยอรมันบุกมานำขาดแทบหมดสภาพ 0-3 ก่อนที่รองจ่าฝูงลา ลีกาจะทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ไล่บี้มาพ่ายไปแบบแสบทรวง 2-3 ในเกม ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศนัดสอง เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2022 ทำให้เต็งหนึ่งของทัวร์นาเมนต์นี้ต้องจอดป้ายไปเพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-4
นาทีที่ 4 แฟนบาร์ซ่าทั่วทั้ง คัมป์นู ต่างต้องพากันช็อกตาค้างตั้ง หลังจากทีมโปรดโดนนำไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเอริค การ์เซียเสียเหลี่ยมบอลจนไปเหนี่ยวเยสเปอร์ ลินด์สตรอมคว่ำลงไปในเขตโทษ และผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษทันที ก่อนที่ฟิลิป คอสติชจะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือซากช่วยให้แฟร้งค์เฟิร์ตบุกไปนำสุดเซอร์ไพรส์ 1-0
นาทีที่ 10 พอบาร์ซ่าตั้งเกมได้ก็เป็นฝ่ายตอบโต้คืนอย่างทันควัน เมื่ออุสมาน เดมเบเล่ จรวดทางเรียบทีมชาติฝรั่งเศส เก็บบอลได้ทางฝั่งขวาพร้อมโยกตัดเข้าในแล้วตักบอลย้อยเข้าไปในกรอบ 6 หลาหน้าปากประตู และบอลลึกไปถึงเสาไกลให้ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง หัวหอกจอมเก๋าทีมชาติกาบอง สอดเข้าไปโขกผ่านมือเควิน ทรัปป์เหินข้ามคานไปแบบได้เสียวกันทั่วทั้งคัมป์นูกันเลยทีเดียว
นาทีที่ 18 บาร์เซโลน่ามาได้ลูกฟรีคิกจากทางด้านซ้าย แล้วจอร์ดี้ อัลบา แบ็กจอมบุกทีมชาติสเปน หยอดบอลเข้าไปในเขตโทษ และทางด้านแฟร้งค์เฟิร์ตโหม่งสกัดออกมาไม่ดี ทำให้บอลไปเข้าทางปืนโรนัลด์ อเราโฮตั้งป้อมซ้ำทันทีหวิดเสียบใต้คาน แต่ทีมเยือนรอดตัวไปได้จากการเซฟของทรัปป์
นาทีที่ 36 กลับกลายเป็นว่าทางด้านแฟร้งค์เฟิร์ตหนีห่างออกไปเป็น 2-0 เมื่อคอสติชดึงตัวประกบพร้อมดีดบอลเข้าช่องขึ้นไปให้ราฟาเอล บอร์เรตามมาตะบันด้วยขวาจากระยะราว 30 หลาบอลพุ่งชนิดติดจรวดพร้อมส่ายผ่านมือนายด่านทีมชาติเยอรมันอย่างมาร์ค-อังเดร แตร์ ซเตเก้นเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสุดแจ่ม
นาทีที่ 47 บาร์ซ่าพลาดโอกาสทองที่จะตีไข่แตกอย่างทันควัน โดยเดมเบเล่พักบอลในเขตโทษทางด้านขวา ก่อนที่จะถวายพานทองฝังเพชรบอลกระดอนพื้นข้ามไปที่เสาไกลถึงโอบาเมย็องชาร์จเผาขนปลิ้นออกหลังไปแบบแทบไม่น่าเชื่อสายตาคอลูกหนังทั่วโลก
นาทีที่ 60 ลูกทีมของชาบี เอร์นานเดซพลาดโอกาสทองที่จะได้จุดโทษคืนบ้าง โดยบอลไปไต่แขนบอร์เร่ในเขตโทษ แล้วผู้ตัดสินรอเช็กวีเออาร์ได้พักใหญ่ ก่อนที่จะตัดสินใจไปดูด้วยตาตนเองที่จอข้างสนาม แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าเป่าให้เกมเดินหน้าต่อไป
นาทีที่ 67 บาร์ซ่าอาการโคม่าถึงขั้นต้องเข็นเข้าไอซียู เมื่อต้องเป็นฝ่ายตามหลังไปไกลแทบไม่เห็นฝุ่น 0-3 จากจังหวะที่ไดจิ คามาดะขยับตามมาเก็บบอลหน้ากรอบ 18 หลาแล้วฝากบอลเร็วออกทางด้านซ้ายไปให้คอสติช ก่อนที่จะกดลูกสองของเขาในเกมนี้ด้วยการแตะบอลเข้าไปในเขตแล้วซัดด้วยซ้ายบอลลอดขาแซร์จินโญ่ เดสต์ แนวรับดีกรีทีมชาติสหรัฐอเมริกา ผ่านมือแตร์ ซเตเก้นเข้าไปเสียบเสาไกลอย่างไร้ที่ติเลยทีเดียว
นาทีที่ 85 บาร์ซ่าเกือบได้จุดเปลี่ยนของเกม จากจังหวะชุลมุนกันในเขตโทษ แล้ว แฟรงกี้ เดอ ยอง ทิ้งตัวทิ่มบอลไปที่เสาไกลถึงเซร์คิโอ บุสเก็ตส์ชาร์จเข้าไปตุงตาข่าย แต่ดันโชคร้ายที่ถูกวีเออาร์ริบสกอร์จากการล้ำหน้านั่นเอง
บาร์ซ่ามาได้ประตูตีไข่แตกจนได้เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก โดยที่บุสเก็ตส์เก็บตกบอลได้จากหน้าเขตโทษ ก่อนที่สิงห์เฒ่าทีมชาติสเปนจะตะบันด้วยขวาตามน้ำ แม้ว่าบอลจะพุ่งไปติดปลายมือเควิน ทรัปป์ แต่ก็ยังแรงพอที่จะพุ่งเข้าไปซุกเสาไกลไล่มาห่าง ๆ 1-3
เกมมาเข้มข้นได้ลุ้นกันมันหยดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเข้าสู่นาทีที่ 11 เทพีแห่งโชคมาช่วยบาร์ซ่าช้าไปหน่อยได้เพียงแค่ไล่บี้มาเป็น 2-3 เมื่อโอบิเต้ เอ็นดิคก้ากระโดดขึ้นฟันศอกใส่ลุค เดอ ยองจนเสียจุดโทษ ก่อนที่เมมฟิส เดปาย ดาวยิงทีมชาติฮอลแลนด์ จะรับหน้าที่สังหารไปแฉลบทรัปป์เด้งชนใต้คาน แต่ว่าโกล์ไลน์ทำงานส่งสัญญาณไปยังข้อมือผู้ตัดสินว่าลูกบอลได้ข้ามเส้นเข้าประตูไปเรียบร้อยแล้ว
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม:
บาร์เซโลน่า (4-3-3): มาร์ค-อังเดร แตร์ ซเตเก้น, ออสการ์ มินกาซ่า (แซร์จินโญ่ เดสต์ นาทีที่ 61), โรนัลด์ อเราโฮ, เอริค การ์เซีย (ลุค เดอ ยอง นาทีที่ 70), จอร์ดี้ อัลบา, เปดรี (แฟรงกี้ เดอ ยอง นาทีที่ 46), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, กาบี กอนซาเลซ, อุสมาน เดมแบเล่, ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง (อดาม่า ตราโอเร่ นาทีที่ 61), เฟร์ราน ตอร์เรส (เมมฟิส เดปาย นาทีที่ 80)
โค้ช: ชาบี เอร์นานเดซ
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-2-1): เควิน ทรัปป์, อัลมามี่ ตูเร่ (มาโกโตะ ฮาเซเบะ นาทีที่ 99), มาร์ติน ฮินเตอเร็กเกอร์, โอบีเต้ เอ็นดีคก้า, อันส์การ์ คเนาฟฟ์ (ธีโมธี แชนด์เลอร์ นาทีที่ 99), เซบาสเตียน โรเด้ (อัจดิน ฮรูสติช นาทีที่ 80), คริสติยาน ยาคิช, ฟิลิป คอสติช, เยสเปอร์ ลินด์สตรอม (เยนส์ เฮาเก้ นาทีที่ 80), ไดจิ คามาดะ, ราฟาเอล บอร์เร่ (รักนาร์ อาร์เซ่ นาทีที่ 90)
โค้ช: โอลิเวอร์ กลาสเนอร์
กรรมการ: อาร์ตูร์ โซอาเรส ดิอ๊าส (โปรตุเกส)

